การเปลี่ยนแปลงในองค์กรไม่ใช่เรื่องง่าย และการนำพาองค์กรไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนต้องอาศัยความเข้าใจในกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพ หนึ่งในโมเดลที่ได้รับการยอมรับและนำไปใช้ได้ผลจริงในหลายองค์กรทั่วโลกคือ โมเดล ADKAR ซึ่งเป็นโมเดลที่ช่วยในการเปลี่ยนแปลงบุคคลในองค์กรให้สามารถปรับตัวและนำพาไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว

บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับ โมเดล ADKAR และวิธีการนำมาใช้ในการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในองค์กรอย่างยั่งยืน โดยจะเน้นการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มจากการปรับตัวของบุคคลในทีม ซึ่งจะมีผลต่อองค์กรโดยรวม

ADKAR คืออะไร?

โมเดล ADKAR (Awareness, Desire, Knowledge, Ability, Reinforcement) ถูกพัฒนาโดย Jeff Hiatt และเป็นกระบวนการที่ช่วยให้บุคคลในองค์กรสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งเป็น 5 ขั้นตอนหลักที่สอดคล้องกันและต่อเนื่องในการดำเนินการ เป้าหมายของ ADKAR คือการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในระดับบุคคลและองค์กร

1. Awareness (ความตระหนักรู้)

การเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงที่ดีต้องเริ่มจากการทำให้ทุกคนในองค์กรตระหนักถึงเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนแปลงและเหตุผลที่มันสำคัญ การสร้าง ความตระหนักรู้ (Awareness) เกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงจะช่วยให้ทีมงานเข้าใจถึงทิศทางที่องค์กรกำลังมุ่งไป และทำให้พวกเขามีแรงจูงใจที่จะร่วมมือในการเปลี่ยนแปลงนั้น

การสื่อสารอย่างโปร่งใสและชัดเจนถึงเหตุผลและประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงจะช่วยลดความกลัวและความต้านทานที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการเปลี่ยนแปลง

2. Desire (ความต้องการ)

หลังจากที่บุคคลในองค์กรตระหนักถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการสร้าง ความต้องการ (Desire) ให้พวกเขาต้องการที่จะเปลี่ยนแปลง การสร้างความต้องการไม่ใช่เพียงแค่การสั่งการ แต่เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้คนในองค์กรรู้สึกถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงและสิ่งที่จะได้จากมัน

การใช้วิธีการต่างๆ เช่น การแสดงให้เห็นถึงโอกาสที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลง หรือการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเป้าหมายส่วนบุคคลและเป้าหมายขององค์กร จะช่วยให้สมาชิกในทีมเกิดความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะรับการเปลี่ยนแปลง

3. Knowledge (ความรู้)

เมื่อมีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการให้ ความรู้ (Knowledge) ที่จำเป็นในการทำให้การเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นได้ การให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับกระบวนการและเครื่องมือที่จะใช้ในการเปลี่ยนแปลง จะช่วยให้ทีมมีความพร้อมในการเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง

การฝึกอบรมและการเสริมสร้างทักษะให้กับบุคคลในองค์กรเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้พวกเขามีความรู้และความเข้าใจในการปรับตัวและดำเนินการตามกระบวนการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. Ability (ความสามารถ)

การเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้นหากบุคคลในองค์กรไม่มี ความสามารถ (Ability) ในการนำความรู้ที่ได้ไปใช้จริง การพัฒนา ความสามารถ คือการช่วยให้ทีมสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ในงานจริงได้ และสามารถจัดการกับอุปสรรคหรือความท้าทายที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การให้การสนับสนุนและการฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จริงจะช่วยให้บุคคลมีความมั่นใจในการปรับตัวและมีทักษะที่จำเป็นในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง

5. Reinforcement (การเสริมแรง)

สุดท้าย การเปลี่ยนแปลงจะไม่ยั่งยืนหากไม่มีการ เสริมแรง (Reinforcement) การยอมรับและการยืนยันถึงผลลัพธ์ที่ได้รับจากการเปลี่ยนแปลงจะช่วยให้ทีมรู้สึกว่าความพยายามของพวกเขาได้รับการยอมรับและมีคุณค่า

การใช้รางวัล การรับรู้ความสำเร็จ และการให้ข้อเสนอแนะเชิงบวกจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและกระตุ้นให้ทีมทำงานต่อไปตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้

การนำโมเดล ADKAR มาใช้ในองค์กรของคุณ

การเปลี่ยนแปลงในองค์กรต้องใช้เวลาทำความเข้าใจและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การใช้โมเดล ADKAR ในการเปลี่ยนแปลงช่วยให้กระบวนการเปลี่ยนแปลงมีความชัดเจนและมีทิศทางที่ถูกต้อง โดยเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงในระดับบุคคลจนถึงการเปลี่ยนแปลงในระดับองค์กร โมเดลนี้เน้นการให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของบุคคลในองค์กรและการทำให้พวกเขามีความพร้อมในการปรับตัวและดำเนินการตามการเปลี่ยนแปลง

หากคุณต้องการ ที่ปรึกษาระบบในการเปลี่ยนแปลงองค์กร ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการใช้โมเดล ADKAR เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนในการเปลี่ยนแปลง TopSpeech พร้อมช่วยออกแบบกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสมกับองค์กรของคุณ

ติดต่อ TopSpeech วันนี้ เพื่อปรึกษาการใช้โมเดล ADKAR ในการเปลี่ยนแปลงองค์กรและสร้างความยั่งยืนในการเติบโตของทีมและองค์กรของคุณ

1.  พนักงานขาดความกระตือรือร้น ไม่มีความรับผิดชอบในงาน
แรงจูงใจต่ำ งานเดินช้า

2.  ขาด Passion และ Teamwork ที่แท้จริง
มาสาย ทำงานไม่เต็มที่ ขาดเป้าหมายร่วมกัน

3.  คนในองค์กรแทบไม่รู้จักกัน
คนทำงานด้วยกัน แต่กลับรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่ทีมเดียวกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือความห่างเหินและงานที่ไร้คุณภาพ

4.  ทีมงานหลายเชื้อชาติ แต่ขาดการสื่อสารที่ดี
ความหลากหลายควรเป็นพลัง แต่เมื่อไม่มีการสื่อสาร ไม่มีสายสัมพันธ์ที่ดีไร้ความเข้าใจ มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่!

5.  การสื่อสารในองค์กรติดขัด
ข้อมูลไม่ถึงมือ งานสะดุด ความผิดพลาดเกิดขึ้นซ้ำๆ

6.  สื่อสารไม่ตรงจุด ขาดความสามัคคี
ไม่มีใครสนใจใคร ไม่ใส่ใจกัน

7.  การประสานงานไม่ราบรื่น เต็มไปด้วยอุปสรรค
เมื่อแต่ละคนต่างทำหน้าที่ตัวเอง แต่ไม่เคยทำเพื่อทีม

8.  ความสามัคคีและการทำงานเป็นทีมไม่เกิดขึ้น ความสามัคคีในทีมไม่มีอยู่จริง
งานที่เกิดขึ้นคือการแข่งกันเอาตัวรอด แต่ละคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่การช่วยเหลือกันเพื่อเป้าหมายใหญ่

9.  Mindset ของทีมยังไม่พร้อมสำหรับความสำเร็จ
ต้องปรับมุมมองและความคิดให้มองเห็นเป้าหมายเดียวกัน

10  ความสัมพันธ์ในองค์กรแย่ลงทุกวัน ต้องการปรับความสัมพันธ์ในองค์กรให้ดีขึ้น
คนในทีมเริ่มไม่คุยกัน ไม่ช่วยกัน

อย่าปล่อยให้องค์กรของคุณกลายเป็นแบบนี้ Team Building คือคำตอบ!
สร้างทีมให้แข็งแกร่ง
ปรับความสัมพันธ์และแรงจูงใจในทีม
เพิ่มพลังในการทำงานร่วมกันให้ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม