สร้างทีมขายอย่างไรให้เหมือนเจ้าของขายเอง

สร้างทีมขายอย่างไรให้เหมือนเจ้าของขายเอง

คุณต้องเลือกว่าคุณจะใช้วิธีไหน ในการที่จะเอาปลาอยู่ในบ่อมาอยู่ในตะกร้าของเรา
มาร์เก็ตติ้งคือการลีดปลามา Selling คือการเอาปลาขึ้นมาอยู่ในตะกร้า
ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาแบ่งปันหกเคล็ดลับในการสร้างทีมขายอย่างไรให้ขายเหมือนเจ้าของธุรกิจครับ

การสร้างทีมขายที่มีประสิทธิภาพและสามารถปิดการขายได้เหมือนเจ้าของธุรกิจเองเป็นความท้าทายที่สำคัญในทุกองค์กร ทีมขายที่ดีไม่เพียงแค่ทำตามคำสั่ง แต่ต้องมีความเข้าใจและความมุ่งมั่นในเป้าหมายทั้งในด้านส่วนตัวและด้านองค์กร ดังนั้นการสร้างทีมขายที่มีจิตวิญญาณเหมือนเจ้าของธุรกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

ในบทความนี้เราจะมาแบ่งปันหกเคล็ดลับสำคัญในการสร้างทีมขายที่มีคุณภาพ พร้อมด้วย Mindset และทักษะที่จะช่วยให้ทีมของคุณปิดการขายได้เหมือนเจ้าของธุรกิจเอง

1. ตั้งเป้าหมายส่วนตัวให้ชัดเจน

สิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างทีมขายที่เหมือนเจ้าของธุรกิจคือการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับแต่ละบุคคล เป้าหมายส่วนตัวของพนักงานขายเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้พวกเขาทำงานอย่างมีแรงบันดาลใจและมุ่งมั่นไปข้างหน้า การรู้ว่าพนักงานขายมีความต้องการอะไรในชีวิต เช่น ต้องการซื้อรถใหม่ หรืออยากมีบ้านภายในปีหน้า จะช่วยให้พวกเขาทำงานอย่างมีแรงจูงใจและกระหายในการปิดการขาย เพราะการขายจะทำให้พวกเขาได้ใกล้ถึงเป้าหมายส่วนตัวของตัวเอง

2. ส่งเสริมทัศนคติเชิงบวก (Positive Thinking)

การมีทัศนคติเชิงบวกเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานด้านการขาย เพราะทีมขายจะต้องเผชิญกับการปฏิเสธจากลูกค้าและคำตำหนิหลายครั้ง หากพนักงานขายมองทุกการปฏิเสธหรือความยากลำบากในแง่ลบ อาจทำให้พวกเขาหมดไฟได้ แต่หากมีทัศนคติเชิงบวกและมองปัญหาเป็นโอกาสในการเรียนรู้ พวกเขาจะสามารถรับมือกับปัญหาเหล่านั้นได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ทีมขายมีความมั่นใจในการทำงานและไม่ย่อท้อจากอุปสรรคต่างๆ

3. เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง (Self Confidence)

ความมั่นใจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การขายประสบผลสำเร็จ พนักงานขายที่มั่นใจในตัวเองสามารถนำเสนอสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในสิ่งที่พวกเขากำลังขาย หากพนักงานขายไม่มั่นใจในตัวเอง ลูกค้าจะรับรู้ได้และไม่ค่อยยอมตัดสินใจซื้อ การฝึกฝนและสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานขายจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อพวกเขามั่นใจในการเสนอขาย พวกเขาจะสามารถปิดการขายได้มากขึ้น

4. มุ่งมั่นในการพัฒนาทักษะการขายอย่างต่อเนื่อง

การสร้างทีมขายที่มีความเชี่ยวชาญและมีทักษะที่ยอดเยี่ยมเป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง การฝึกอบรมที่เหมาะสมและการสนับสนุนในการพัฒนาทักษะการขายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ไม่เพียงแค่การฝึกฝนทักษะการพูด แต่ยังต้องมีการสอนเทคนิคการตั้งคำถามและวิธีการฟังลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้พนักงานขายสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าและเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการเหล่านั้น

5. มีการแบ่งปันความสำเร็จและให้รางวัล

การสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมให้พนักงานขายมีความกระตือรือร้นและรู้สึกภาคภูมิใจในความสำเร็จของตนเองเป็นสิ่งสำคัญ การมอบรางวัลหรือการยกย่องในการบรรลุเป้าหมายเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างแรงจูงใจและส่งเสริมให้พนักงานขายทำงานหนักยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรางวัลทางการเงินหรือการให้คำชื่นชมในที่ประชุม พนักงานขายที่รู้สึกว่าผลงานของตนได้รับการยอมรับจะมีแรงบันดาลใจในการทำงานมากขึ้น

6. สร้างบรรยากาศที่เหมือนเจ้าของธุรกิจ

การทำให้พนักงานขายรู้สึกเหมือนเจ้าของธุรกิจเอง คือการสร้างความรับผิดชอบและความเป็นเจ้าของในสิ่งที่ทำ พนักงานขายต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับกระบวนการขายและการปรับกลยุทธ์ในแต่ละเดือน เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตและความสำเร็จขององค์กร นอกจากนี้ การสร้างความรู้สึกของการเป็นเจ้าของในงานที่ทำ จะช่วยให้พวกเขามีความรับผิดชอบมากขึ้น และทำให้การขายมีความมุ่งมั่นและกระตือรือร้น

สรุป

การสร้างทีมขายที่มีคุณภาพและสามารถขายได้เหมือนเจ้าของธุรกิจเองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สามารถทำได้ด้วยการสร้าง Mindset ที่ถูกต้องและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จในทีมขายมาจากการที่พนักงานขายมีเป้าหมายที่ชัดเจน มองปัญหาในแง่บวก มั่นใจในตัวเอง พัฒนาทักษะ และมีความรับผิดชอบในงานที่ทำ ด้วยการส่งเสริมให้พนักงานขายมีการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง คุณจะสามารถสร้างทีมขายที่สามารถทำยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเจ้าของธุรกิจเอง

ทั้งหมดนี้ติดตามได้ในรายการ Top Six Cret Ep 8, Lamphieng

อ่านใจคนเก่ง ให้ฟีดแบ็กเป็น พัฒนาทักษะการอ่านคนและการสื่อสาร

อ่านใจคนเก่ง ให้ฟีดแบ็กเป็น พัฒนาทักษะการอ่านคนและการสื่อสาร

การอ่านใจคนไม่ใช่เรื่องของพลังจิต แต่คือทักษะที่ช่วยให้เรามองเห็นความคิดและอารมณ์ของคนอื่น ผ่านการสังเกตพฤติกรรม สีหน้า และท่าทาง การอ่านใจคนเก่งจึงไม่ใช่แค่ทักษะที่จะทำให้คุณดูเจ๋งเท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณให้ฟีดแบ็กได้อย่างตรงประเด็นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทักษะการอ่านคนสำคัญยังไง?

การอ่านใจคนช่วยให้เราเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายรู้สึกและคิดได้ชัดเจนขึ้น เมื่อเราสามารถเข้าใจว่าคนอื่นกำลังรู้สึกอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นความกังวล ความไม่มั่นใจ หรือความไม่พอใจ เราก็สามารถสื่อสารและให้ฟีดแบ็กได้อย่างตรงประเด็นและเหมาะสมมากขึ้น และการที่คนรับฟีดแบ็กยอมรับความคิดเห็นของเราได้นั้น นอกจากต้องพูดดีแล้ว ยังต้องเข้าใจสถานการณ์ภายในใจของเขาด้วย

ฟีดแบ็กต้องมี ‘ใจ’ ไม่ใช่แค่คำพูด

1. ฟีดแบ็กอย่างไรให้ได้ใจคนฟัง?

การให้ฟีดแบ็กไม่ได้แค่พูดออกมาให้จบ ๆ แต่ต้องมาจากใจที่เข้าใจคนอื่นจริง ๆ เริ่มต้นด้วยการฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูด และจับสังเกตพฤติกรรมของเขา เช่น ท่าทางการนั่ง สีหน้า หรือการหลบสายตา การเริ่มจากการเข้าใจสถานการณ์ของคนอื่นจะช่วยให้คำพูดของคุณน่าเชื่อถือมากขึ้น

2. ใช้คำพูดให้เป็นศิลปะ

พูดอย่างเดียวไม่พอ ต้องใช้คำพูดที่สร้างสรรค์ เช่น แทนที่จะบอกว่า “งานเธอยังไม่ดีเลย” ลองเปลี่ยนเป็น “งานนี้ยังมีบางจุดที่ปรับปรุงได้ เรามาดูกันว่าตรงไหนจะปรับให้ดีขึ้นได้บ้าง” ฟังดูแล้วมีความนุ่มนวลและเชิญชวนให้พัฒนาแทนการวิจารณ์อย่างเดียว

3. พูดถึงพฤติกรรม ไม่ใช่ตัวตน

บางครั้งการฟีดแบ็กก็เหมือนการสอน แม้จะเจอปัญหาใหญ่ อย่ามุ่งโจมตีบุคคล แต่ให้เน้นไปที่พฤติกรรม เช่น “ครั้งนี้อาจจะยังไม่ตรงตามที่กำหนดไว้ แต่เรามาดูว่ารอบหน้าจะทำให้มันดีกว่านี้ยังไงได้บ้าง” เป็นการสะกิดเบา ๆ ที่ช่วยเปิดใจคนฟังมากกว่า

4. สร้างพื้นที่ให้คนฟังได้คิดและตอบกลับ

ฟีดแบ็กที่ดีไม่ใช่การพูดฝ่ายเดียว แต่ต้องสร้างพื้นที่ให้คนรับฟีดแบ็กมีส่วนร่วม เช่น “เธอคิดเห็นอย่างไรกับสิ่งที่พูดไป มีอะไรอยากปรับเพิ่มเติมไหม?” การเปิดโอกาสให้คนอื่นแสดงความคิดเห็นจะช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรและส่งเสริมการสื่อสารที่ดียิ่งขึ้น

การสื่อสารและฟีดแบ็กเชิงบวก

ฟีดแบ็กต้องสร้างกำลังใจ

การฟีดแบ็กไม่ควรเป็นการโจมตีคน แต่ควรสร้างกำลังใจ โดยให้ข้อเสนอแนะเชิงบวกและนำเสนอวิธีแก้ไขปัญหา เช่น การชื่นชมก่อนจะนำเสนอจุดที่ควรปรับปรุง และสรุปด้วยความเห็นที่เป็นประโยชน์ ฟีดแบ็กแบบนี้จะทำให้คนฟังรู้สึกอยากพัฒนาและเติบโตไปในทิศทางที่ดีกว่าเดิม

สรุป อ่านใจคนเก่ง ให้ฟีดแบ็กเป็นคือกุญแจสำคัญของการสื่อสาร

การอ่านใจคนและการให้ฟีดแบ็กไม่ใช่แค่ทักษะที่ต้องฝึกฝน แต่ยังเป็นศิลปะที่ต้องใช้ความเข้าใจและการสื่อสารที่ละเอียดอ่อน เมื่อเราพัฒนาทักษะทั้งสองอย่างนี้ได้ เราก็จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ทำให้การทำงานร่วมกันราบรื่น และส่งผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว

การฟีดแบ็กที่ดีคือการที่เราสามารถเข้าใจทั้งใจของคนอื่นและสื่อสารในแบบที่สร้างสรรค์ ทำให้เขาเห็นคุณค่าและพัฒนาตัวเองได้อย่างเต็มที่

ภาพบรรยากาศการวางระบบ บริษัท Tanapat789 และ บริษัท CL Grand

โลจิสติกส์ไม่ใช่แค่การขนส่งสินค้า
แต่คือการส่งมอบความไว้วางใจ
ให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ทุกเส้นทางคือการสร้างโอกาสใหม่
และทุกการจัดการคือศิลปะ
ในการขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
ภาพบรรยากาศการวางระบบ
บริษัท Tanapat789 และ บริษัท CL Grand
ผู้ให้บริการด้านรถขนส่ง รถห้องเย็น
ชั้นแนวหน้าในเชียงใหม่
และให้บริการทั่วประเทศ

วันแรกของการ Audit บริษัท วนิดา ซัพพลายจำกัด ผู้นำด้านการจัดหาแรงงานจาก AEC

ก่อนรักษาก็ต้องมีการวินิจฉัย
แต่หากเป็นบริษัทหรือองค์กร
การ Audit ก็คือการตรวจเช็คระบบว่า
สิ่งที่มี สิ่งที่ขาดคืออะไร
ถ้ามีแล้วทำอย่างไรถึงจะดีขึ้น
ส่วนถ้าไม่มี ก็แค่ทำให้มี
วันแรกของการ Audit
บริษัท วนิดา ซัพพลายจำกัด
ผู้นำด้านการจัดหาแรงงานจาก AEC
ขอบคุณท่านผู้บริหาร
ที่ให้เกียรติเรา ได้มีส่วนร่วม
ผลักดันและพัฒนาองค์กรที่ดีอยู่แล้ว
ให้ดียิ่งๆขึ้นไป

Role Model แบบอย่างที่ดีสามารถส่งผลกระทบต่อทีมอย่างไรบ้าง?

Role Model แบบอย่างที่ดีสามารถส่งผลกระทบต่อทีมอย่างไรบ้าง?

 

การมีแบบอย่างที่ดี Role Model เป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถช่วยส่งเสริมการพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน ทั้งในระดับบุคคลและระดับทีม แบบอย่างที่ดีไม่ได้เป็นเพียงแค่คนที่ทีมสามารถดูและทำตามได้ แต่ยังเป็นผู้ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานร่วมกัน สร้างสภาพแวดล้อมที่เน้นการสนับสนุน และเป็นแรงผลักดันให้ทีมก้าวสู่ความสำเร็จ

ก่อนที่เราจะไปดูผลกระทบที่แบบอย่างที่ดีมีต่อทีม มาดูกันก่อนว่าแบบอย่างที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร

แบบอย่างที่ดีคืออะไร?

แบบอย่างที่ดีคือบุคคลที่มีคุณลักษณะและการกระทำที่น่าชื่นชม พวกเขาแสดงออกถึงค่านิยมและจริยธรรมที่ดี เป็นคนที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้ด้วยการแสดงตัวอย่างในด้านความสามารถ ความทุ่มเท การจัดการความขัดแย้ง และการสนับสนุนผู้อื่น

คุณลักษณะของแบบอย่างที่ดี

มีความเป็นผู้นำ แบบอย่างที่ดีมีความสามารถในการนำทีม ไม่ว่าจะเป็นผู้นำอย่างเป็นทางการหรือไม่ พวกเขาแสดงออกถึงการรับผิดชอบ การตัดสินใจที่มั่นคง และความสามารถในการแก้ไขปัญหา
ทุ่มเทและขยันขันแข็ง บุคคลที่เป็นแบบอย่างที่ดีมักจะแสดงถึงความมุ่งมั่นในงาน ความพยายามที่ไม่ย่อท้อ และความสามารถในการทำงานให้เสร็จสิ้นตามเป้าหมาย
เอาใจใส่และสนับสนุน แบบอย่างที่ดีให้ความสนใจต่อความต้องการและปัญหาของคนรอบข้าง มีความสามารถในการรับฟังและให้คำแนะนำเมื่อทีมต้องการ

ผลกระทบของแบบอย่างที่ดีต่อทีม

1. สร้างแรงบันดาลใจให้กับทีม หนึ่งในผลกระทบที่สำคัญที่สุดของการมีแบบอย่างที่ดีคือการสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีม บุคคลที่แสดงออกถึงความขยัน ความมุ่งมั่น และความเป็นมืออาชีพ สามารถกระตุ้นให้ทีมเกิดความกระตือรือร้นในการทำงาน สมาชิกในทีมมักจะเรียนรู้และเลียนแบบทัศนคติที่ดีเหล่านั้น ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

2. ส่งเสริมการพัฒนาทักษะของทีม แบบอย่างที่ดีสามารถส่งผลให้ทีมมองเห็นแนวทางการพัฒนาทักษะของตนเอง เมื่อสมาชิกในทีมเห็นการทำงานที่มีคุณภาพและการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมจากแบบอย่าง พวกเขามักจะนำเอาแนวทางการทำงานนั้นไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งช่วยให้ทีมโดยรวมมีความสามารถที่ดีขึ้น

3. สร้างวัฒนธรรมทีมที่ดี การมีแบบอย่างที่ดีในทีมยังส่งผลต่อการสร้างวัฒนธรรมที่ดีในทีม เช่น การสนับสนุนซึ่งกันและกัน การแบ่งปันความรู้ และการร่วมมือกันแก้ปัญหา เมื่อมีคนในทีมที่แสดงออกถึงการมีจริยธรรมและความรับผิดชอบ คนอื่น ๆ ในทีมก็จะได้รับแรงกระตุ้นให้มีพฤติกรรมในทิศทางเดียวกัน

4. เพิ่มความมั่นใจในทีม การมีคนที่เป็นแบบอย่างในทีมสามารถทำให้สมาชิกทีมรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตัดสินใจหรือการแก้ไขปัญหาที่ยากลำบาก เพราะพวกเขารู้ว่ามีคนที่มีประสบการณ์คอยเป็นที่ปรึกษาหรือเป็นตัวอย่างในการรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อน

5. สร้างความเชื่อมั่นและความเคารพ แบบอย่างที่ดีเป็นที่นับถือของสมาชิกในทีม เมื่อพวกเขาแสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจที่รอบคอบ การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเท่าเทียม สิ่งนี้จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความเคารพซึ่งกันและกันในทีม

สรุป Role Model แบบอย่างที่ดีสามารถส่งผลกระทบต่อทีมอย่างไรบ้าง?

Role Model แบบอย่างที่ดีมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นและพัฒนาทีม การสร้างแรงบันดาลใจ ส่งเสริมทักษะ และสร้างวัฒนธรรมทีมที่ดี ล้วนเป็นผลกระทบเชิงบวกที่ทำให้ทีมทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การมีคนในทีมที่แสดงคุณลักษณะที่น่าเอาอย่างทำให้สมาชิกในทีมมีความมั่นใจ เชื่อมั่นในกันและกัน และก้าวสู่ความสำเร็จร่วมกัน

ภาพบรรยากาศการวางเป้าหมาย บริษัท ซีเค-ฟู้ด เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด

เป้าหมายของบริษัทเปรียบเสมือนเข็มทิศ
ที่ช่วยชี้ทางให้ทุกคนในองค์กรเดินไปในทิศทางเดียวกัน
ทำให้เกิดความร่วมมือกันและการทำงานเป็นทีม
อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าเป้าหมายที่ชัดเจน
จะช่วยให้พนักงานทุกคนเข้าใจบทบาทของตนเอง
และเห็นความสำคัญ ของการทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นๆ
ทำให้เกิดแรงจูงใจและความผูกพันในองค์กรมากขึ้น
ภาพบรรยากาศการวางเป้าหมาย
บริษัท ซีเค-ฟู้ด เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด
ผู้นำในการผลิตและให้บริการ
ด้านการผลิตไส้กรอกลูกชิ้น
และผลิตภัณฑ์อื่นที่คล้ายกันที่ทำจาก
เนื้อสัตว์และเนื้อสัตว์ปีก
ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

วันแรกของการ Audit Checksheet Ramada Soutsea karon beach

มนุษย์เราถ้าก่อนรักษาก็ต้องมีการวินิจฉัย
แต่หากเป็นบริษัทหรือองค์กร
การ Audit ก็คือการตรวจเช็คระบบว่า
สิ่งที่มี สิ่งที่ขาดคืออะไร
ถ้ามีแล้วทำอย่างไรถึงจะดีขึ้น
ส่วนถ้าไม่มี ก็แค่ทำให้มี
วันแรกของการ Audit Checksheet
Ramada Soutsea karon beach
ที่สุดของโรงแรมในเครือ Southsea Group
ขอบคุณท่านผู้บริหาร บริษัท Soutsea Group
ที่ให้เกียรติเรา ได้มีส่วนร่วม
ผลักดันและพัฒนาองค์กรที่ดีอยู่แล้ว
ให้ดียิ่งๆขึ้นไป

Expertise ทำไมการมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในงานที่ทำมาก่อนจึงสำคัญสำหรับที่ปรึกษา?

Expertise ทำไมการมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในงานที่ทำมาก่อนจึงสำคัญสำหรับที่ปรึกษา?

การเป็นที่ปรึกษาที่ดีไม่ใช่เพียงแค่การให้คำแนะนำหรือช่วยเหลือผู้อื่นในทางธุรกิจเท่านั้น แต่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ Expertise และประสบการณ์ที่หลากหลายเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาและเสนอแนวทางที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าทำไมการมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในงานที่ทำมาก่อนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับที่ปรึกษา และช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือได้อย่างไร

1. ทำไมความเชี่ยวชาญถึงเป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับที่ปรึกษา?

การที่ที่ปรึกษามีประสบการณ์มาก่อนช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคำแนะนำและการวิเคราะห์ของเขา ลูกค้ามักจะต้องการคำแนะนำจากผู้ที่มีความรู้ลึกซึ้งและมีประสบการณ์ในการจัดการกับสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันมาก่อน การมีความเชี่ยวชาญที่ชัดเจนทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าที่ปรึกษาสามารถนำพาเขาไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้

ตัวอย่าง ที่ปรึกษาทางธุรกิจที่มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการบริษัทในช่วงวิกฤตจะมีมุมมองที่ลึกซึ้งและแนวทางที่ใช้งานได้จริงมากกว่า

2. ทักษะที่ปรึกษาที่จะพาคุณผ่านทุกความท้าทาย

การมีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อนทำให้ที่ปรึกษามีทักษะในการแก้ไขปัญหาที่เฉียบคม พวกเขาเคยเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ มาก่อน และเข้าใจว่าแนวทางใดสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การแก้ไขปัญหาไม่ได้เป็นเพียงการหาทางออกเท่านั้น แต่ต้องวิเคราะห์ต้นตอของปัญหาอย่างถูกต้อง

การที่ที่ปรึกษามีประสบการณ์จะช่วยให้เขาสามารถมองเห็นปัญหาที่ซ่อนอยู่หรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งผู้ที่ขาดประสบการณ์อาจไม่สามารถคาดการณ์ได้

3. บทเรียนจากความล้มเหลวที่สร้างที่ปรึกษามืออาชีพ

ที่ปรึกษาที่ประสบความสำเร็จมักผ่านประสบการณ์ทั้งด้านดีและไม่ดีมาก่อน ความล้มเหลวในอดีตทำให้พวกเขาเข้าใจถึงความเสี่ยงและการจัดการกับความผิดพลาดในทางที่สร้างสรรค์ นี่คือสิ่งที่ทำให้คำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์มีค่า เพราะพวกเขาสามารถชี้แนะวิธีการหลีกเลี่ยงหรือจัดการกับความผิดพลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเรียนรู้จากความล้มเหลวทำให้ที่ปรึกษามีความรู้ในการคาดการณ์ปัญหาและเสนอมาตรการป้องกันอย่างรอบคอบ

4. ความสำคัญของการมีประสบการณ์ในฐานะที่ปรึกษา

ประสบการณ์ที่หลากหลายช่วยให้ที่ปรึกษามองเห็นรายละเอียดที่คนทั่วไปอาจมองไม่เห็น การมีมุมมองเชิงลึกทำให้ที่ปรึกษาสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ในระดับที่ลึกลงไปได้มากกว่าการดูเพียงแค่ภาพรวม พวกเขาสามารถเชื่อมโยงข้อมูลที่ซับซ้อนและวางแผนที่ครอบคลุมได้

การมีมุมมองเชิงลึกไม่เพียงแต่ช่วยในการแก้ปัญหา แต่ยังช่วยในเรื่องการพัฒนาและเตรียมความพร้อมให้กับลูกค้าในการเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ได้

5. วิธีที่ที่ปรึกษามืออาชีพช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้จริง

ความเชี่ยวชาญที่แท้จริงจะต้องไม่ใช่เพียงแค่ความรู้ทางทฤษฎีเท่านั้น ที่ปรึกษาที่ดีจะต้องสามารถให้คำแนะนำที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในสถานการณ์ที่ลูกค้าเผชิญอยู่ การให้คำแนะนำที่เป็นไปได้และเหมาะสมกับบริบทของธุรกิจจะช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์จริงจะรู้ว่าแนวทางใดสามารถนำไปใช้ได้จริง และจะไม่เสนอแนวคิดที่เป็นไปได้ยากหรือไม่สามารถปรับใช้ในสถานการณ์ปัจจุบัน

6. เคล็ดลับที่ที่ปรึกษามืออาชีพใช้ในการผูกมิตรกับลูกค้า

ประสบการณ์ทำให้ที่ปรึกษาสามารถสร้างความไว้วางใจกับลูกค้าได้ ที่ปรึกษาที่มีความน่าเชื่อถือและมีประวัติที่ดีจะทำให้ลูกค้ามั่นใจในการทำงานร่วมกัน ความไว้วางใจนี้เป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารและทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น

เมื่อลูกค้าเชื่อมั่นในตัวที่ปรึกษา พวกเขาจะเปิดใจรับฟังคำแนะนำและทำตามคำแนะนำเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น

Expertise ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการทำงานมาก่อนเป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้สำหรับที่ปรึกษาที่ดี เพราะมันสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้คำแนะนำมีประสิทธิภาพ และเสริมสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า การมีทักษะการแก้ปัญหาที่เฉียบคมและมุมมองเชิงลึกเป็นสิ่งที่ทำให้ที่ปรึกษาสามารถสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจได้อย่างแท้จริง

ภาพบบรรยากาศการ OJT บริษัท โรงสี ต.ไทยเจริญ จ.ศรีสะเกษ

ภาพบบรรยากาศการ OJT
ตรวจ Patrol 5ส และความปลอดภัย
โดยวันนี้อาจารย์เคน เทวฤทธิ์ ประเศรษฐสุต
ยังอยู่ที่ บริษัท โรงสี ต.ไทยเจริญ จ.ศรีสะเกษ
โรงสีข้าวที่ใหญ่เป็นเบอร์ต้นๆ
ของจังหวัดศรีสะเกษ
“อยากซื้อข้าวไปขายหรืออยากขายข้าว
ราคาดีทั้งค้าปลีกและส่ง”
 บริษัท โรงสี ต.ไทยเจริญ
มีครบจบที่นี่เลยครับ

ภาพบรรยากาศการ Audit บริษัท ซีเค-ฟู้ด เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด

บางครั้งการที่เราทำงานอยู่กับสถานที่
เดิมๆ ซ้ำๆทุกวัน ทำให้เราชินและมองไม่เห็น
ความผิดปกติในองค์กร
การ Audit จึงเป็นวิธีการที่จะทำให้เรา
รู้ว่าอะไรคือจุดแข็งอะไรคือจุดอ่อน
และสิ่งที่ยังพัฒนาได้อีก
ภาพบรรยากาศการ Audit
บริษัท ซีเค-ฟู้ด เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด
ผู้นำในการผลิตและให้บริการ
ด้านการผลิตไส้กรอกลูกชิ้น
และผลิตภัณฑ์อื่นที่คล้ายกันที่ทำจาก
เนื้อสัตว์และเนื้อสัตว์ปีก
ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี